กลยุทธ์การตลาดเชิงรุก (Pro-active Marketing Strategy)

หลักการและเหตุผล
    พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย ตามการเปลี่ยนแปลงของสังคม ทำให้นักการตลาดต้องพยายามหากลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อรักษาลูกค้าและเพิ่มลูกค้าใหม่ขึ้น จากเดิมที่องค์กรสามารถรอให้ลูกค้ามาหาเองไดัแต่ตอนนี้ถึงเวลาที่องค์กรต้องรุกเข้าหาลูกค้า และคว้าใจลูกค้าให้ได้ก่อนคู่แข่ง แนวทางการทำการตลาดในปัจจุบันจึงต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบไปด้วย นักการตลาดต้องมองภาพที่แท้จริงของตลาดให้ชัดเจน หาเทคนิควิธีการเข้ามาเสริมหลักการตลาดเดิม ๆ ที่ใช้อยู่ วางแผนการตลาดในอนาคตที่จะต้องแยบยลและได้ผล ดังนั้น กลุยุทธ์การตลาดยุคใหม่ ต้องเป็นกลยุทธ์การตลาดแบบเชิงรุกเพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ก่อน ตอบสนองความต้องการได้อย่างถูกต้อง เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่องค์กร เพื่อที่จะก้าวทันต่อการแข่งขัน หรือการเปลี่ยนแปลงของการตลาดในปัจจุบันอย่างได้ผล

ประโยชน์ที่ผู้อบรมได้รับ

1. เข้าใจวิธีการวิเคราะห์สภาพตลาดและคู่แข่ง
2. เข้าใจกลยุทธ์การตลาดขององค์กร
3. เข้าใจพฤติกรรมและก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของลูกค้าในยุคปัจจุบัน
4. วิเคราะห์สถานการณ์ในปัจุบันเพื่อวางแผนกลยุทธ์การตลาดในอนาคตได้
5. สามารถเลือกใช้เทคนิค กลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างเหมาะสมกับองค์กรและลูกค้า

ระยะเวลาอบรม : 1 วัน 

กำหนดการและหัวข้ออบรม

09.00 – 12.00 น.

1. วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งในตลาด Marketing Environment Change Marketing Trend
2. วิเคราะห์เจาะลึกกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์ขององค์กร
3. เจาะลึกลูกค้าหลักขององค์กร วิเคราะห์ พฤติกรรมลูกค้าองค์กรวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าบุคคล
4. การมองภาพปัจจุบันเพื่อมุ่งสู่เป้หมายในอนาคต
*STP Marketing (Segmentation, Targeting, Positioning) และ Branding
*การเลือกใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาด

12.00 – 13.00 น.
รับประทานอาหารกลางวัน

13.00 – 16.30 น.

การสร้างนวัตกรรมทางการตลาด การพัฒนา 4 Ps / การพัฒนา 7 P’s ชนะคู่แข่งด้วยการตลาดแบบใหม่
6. กิจกรรม : Action Plan
7. สรุปและตอบข้อซักถาม

รูปแบบการฝึกอบรม : บรรยาย, กิจกรรมกลุ่ม, ระดมสมอง, กรณีศึกษา, การฝึกปฏิบัติ

วิทยากร : ผู้เชี่ยวชาญ วิทยากรและผู้มีประสการณ์ด้านการตลาดและกลยุทธ์การตลาด

คุณสมบัติผู้เข้าอบรม : ผู้บริหาร ผู้จัดการฝยการตลาด หรือ เจ้าหน้าที่ฝ่ยการตลาด

จำนวนผู้เข้าอบรม : 50-60 ท่าน/รุ่น

*หมายเหตุ :

1. ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมสามารถนำไปลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้ 200%
2. หัวข้อการอบรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามคำแนะนำของวิทยากรหรือความต้องการขององค์กร
ที่เข้ารับการอบรม

หลักสูตรฝึกอบรม